บทที่ 2 โลกและการเปลี่ยนแปลง
2.1 ทฤษฎีทวีปของเกเวเนอร์
ในปี พ.ศ.2458 นักอุตุนิยมวิทยาชาวเยอรมัน ชื่อ อัลเฟรด เวเกเนอร์ ได้ตั้งสมมติฐานว่าผืนแผ่นดินทั้งหมดบนโลกแต่เดินเป็นผืนแผ่นเดียวกัน เรียกว่า พันเจีย เป็นภาษากรีซที่แปลว่า แผ่นดินทั้งหมด ซึ่งพันเจียแบ่งออกเป็น 2 ทวีป ได้แก่ ลอเรเซีย ประกอบด้วย ทวีปอเมริกาเหนือ กรีนแลนด์ และยูเรเซีย (ยกเว้นอินเดีย) กอนด์วานา ประกอบด้วย ทวีปแอฟริกา แอนด์ตาร์กติกา ออสเตรเลีย อนุทวีปอินเดีย และมาดากัสการ์
หลักฐานสนับสนุนทฟษฎีของเวเกเนอร์
- รอยต่อของแผ่นดินธรณีภาค รูปร่างของทวีปบางทวีปสามารถเชื่อมต่อกันได้
- ความคล้ายของกลุ่มหินและแนวภูเขา กลุ่มหินในอเมริกาใต้ แอนตาร์กติกา แอฟริกา ออสเตรเลีย และอินเดีย เป็นหินที่เกิดในยุคคาร์บอนิเฟอรัสถึงยุคจูแรสซกิเหมือนกัน
- หินที่เกิดจากการสะสมตัวและธารน้ำแข็ง
- หินบริเวณมหาสมุทร ร่องลึกใต้มหาสมุทร
- ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์
2.2 กระบวนการที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค
วงจรการพาความร้อน คือ กระบวนการที่สารร้อนภายในโลกไหลเวียนเป็นวงจร ทำให้เปลือกโลกกลางมหาสมุทรยกตัวขึ้น เมื่อสารไหลเวียนขึ้นมาจะมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น และุมดลงบริเวณร่องลึกมหาสมุทร
2.3 ลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค
- ขอบแผ่นธรณีภาคแยกตัวออกจากกัน → เนื่องมาจากการดันตัวของหนืดในชั้นฐานะรณีภาค ทำให้ธรณีภาคโก่งตัวขึ้น ส่วนยอดจะยืดออกและบางลง พร้อมกับเกิดรอยแตกและทรุดตัวลง กลายเป็น หุบเขาทรุด ทำให้ใต้มหาสมุทรเคลื่อนตัวแยกออกไปทั้งสองข้าง เรียกว่า การขยายตัวของพื้นทะเล เช่น บริเวณทะเลแดง อ่าวแคริฟอร์เนีย กลางมหาสมุทรแอตแลนติก
- ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่เข้าหากัน มี 3 แบบ คือ
2.แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนเข้ากับแผ่นธรณีภาคพื้นทวีป เกิดรอยโค้งเป็นเทือกเขาบนแผ่นธรณีภาคพื้นทวีป เช่น ที่อมเริกาใต้แถวตะวันตก
3.แผ่นธรณีภาคพื้นทวีปชนกับแผ่นธรณีาคพื้นทวีป มีส่วนหนึ่งมุดลงอีกส่วนหนึ่งเกยกันอยู่เกิดเป็นเทือกเขาสูง เช่น เทือกเขาหิมาลัย เทอกเขาแอลป์
- ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกัน → การเคลื่อนที่ไม่เท่ากันทำให้ไถลเลื่อนผ่าน มีลักษณะเป็นแนวแตกแคบยาวทิศทางตั้งฉากกับเทือกเขากลางมหาสมุทร และร่องลึกใต้ทะเลลึก เช่น รอยเลื่อซานแอนเดรียส รอบเลื่อนอัลไพน์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น